จำเป็นต้องรอ !!! “พิพัฒน์” ให้ แบงค์ชาติยืนยัน ใครคือผู้แทน ยอมรับ 400 บาทไม่ทัน 1 ตุลาคม เรียกร้องช่วยเห็นใจแรงงาน ขึ้นค่าแรงตั้งแต่ปี 2555 เฉลี่ยปีละแค่ 8 บาท

จำเป็นต้องรอ !!! “พิพัฒน์” ให้ แบงค์ชาติยืนยัน ใครคือผู้แทน ยอมรับ 400 บาทไม่ทัน 1 ตุลาคม เรียกร้องช่วยเห็นใจแรงงาน ขึ้นค่าแรงตั้งแต่ปี 2555 เฉลี่ยปีละแค่ 8 บาท

.
วันที่ 23 กันยายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ว่า ล่าสุดนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานได้ทำหนังสือไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าตามที่ข้าราชการของ ธปท.ได้เกษียณอายุไปแล้วเกือบ 1 ปี เพื่อที่ว่าให้ ธปท.มีข้อสรุปอย่างไรก็ขอให้ตอบกลับมายังปลัดกระทรวงแรงงานเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเราจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งบอร์ดค่าจ้าง จะต้องประกอบด้วย 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายราชการ ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายละ 5 คน รวม 15 คน ซึ่งฝ่ายราชการ ประกอบด้วย กระทรวงแรงงาน 2 คน และหน่วยงานภายนอก ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ สภาพัฒน์ฯ และแบงก์ชาติ ซึ่งต้องใช้เสียงโหวต 2 ใน 3 จึงจะสามารถลงมติได้


.
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างคนปัจจุบันกำลังจะเกษียณอายุ จึงมีความจำเป็นต้องรอปลัดกระทรวงฯ คนใหม่มาพิจารณา เมื่อการประชุมในวันที่ 24 กันยายนนี้ ไม่สามารถเปิดประชุมได้ ผมก็ต้องขออภัย ที่ไม่สามารถทำตามที่สัญญาไว้ได้ว่าจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศวันที่ 1 ตุลาคมนี้ได้ ซึ่งผมยืนยันว่าจะเดินหน้าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ถึงแม้ว่ารัฐบาลท่านนายกฯ แพรทองธาร ชินวัตร จะไม่ได้ประกาศเป็นนโยบาย เพราะตระหนักดีถึงความลำบากของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างก็จะทำให้แรงงานมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
.
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า ไม่อยากกดค่าจ้างให้ต่ำเกินไป ในขณะที่ค่าครองชีพกำลังพุ่งสูง ซึ่งเป็นเวลา 12 ปีแล้ว หลังจากมีการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ค่าจ้างก็ยังขึ้นไม่ถึง 100 บาท หรือเฉลี่ยปีละ 8 บาท
.
“ผมเข้าใจท่านปลัดกระทรวงแรงงานดีที่ท่านพยายามทำทุกสิ่งเพื่อดำเนินการจัดประชุมให้ได้ ผมเองต้องขออภัยที่ยังไม่สามารถทำตามที่ได้ประกาศไว้ว่าจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศวันที่ 1 ตุลาคมนี้ได้
เรายังจำเป็นต้องรอคำตอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย เราต้องรอท่านปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ เราต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อคนไทยได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น” นายพิพัฒน์ กล่าว

////////

Related posts